ผดส. โปรดทราบ! ห้ามนำ "ของเหลว-น้ำพริก-อาหารพื้นเมือง" เกิน 100 ml ขึ้นเครื่องบิน ดีเดย์ 23มิ. ย. นี้ - YouTube
ห้ามนำของเหลวถือขึ้นเครื่องเกินชิ้นละ 100 มิลลิลิตร หากมีความจำเป็นต้องนำของเหลวติดตัวไปด้วยเช่นพวกแชมพู สบู่เหลว ให้ใช้วิธีแบ่งใส่ขวดเล็กๆ หรือถุงใสที่มีปริมาตรไม่เกิน 100 ml โดยวิธีนี้เราสามารถนำของเหลวติดตัวรวมกันแล้วไม่เกิน 1, 000 มิลลิลิตร ขนาดของของเหลวจะยึดจากฉลากบรรจุภัณฑ์เป็นหลัก เช่น ครีม ที่ฉลากติดไว้ว่า 120มิลลิลิตร ถึงแม้ว่าจะใช้ไปแล้วครึ่งหนึ่งก็ไม่สามารถนำติดตัวไปได้ แต่ในกรณีของเหลวโหลดเป็นสัมภาระใต้ท้องเครื่องจะไม่จำกัดปริมาณ 2. ห้ามนำของมีคม วัตถุไวไฟ อาวุธ ถือขึ้นเครื่อง เช่นกรรไกร มีด คัทเตอร์ ดอกไม้ไฟ ถ้าเจ้าหน้าที่ตรวจเจอจะต้องถูกทิ้งขยะ 3. นำสัตว์เลี้ยงเดินทางออกนอกประเทศต้องปฎิบัติตามกฎของการท่าอากาศยาน เเละเเจ้งต่อสำนักงานการเดินทาง โดยมีสัตว์เลี้ยง ซึ่งจะเป็นผู้ดูเเลเเนะนำในเรื่องข้อบังคับต่างๆ ขั้นตอนการส่งสัตว์เลี้ยง (สุนัข แมว นก ฯลฯ) ออกนอกประเทศ 4.
เป็นสิ่งที่ทุกคนต้องรู้และเตรียมพร้อมเมื่อจะเดินทางโดยเครื่องบิน โดยเฉพาะขาช็อปนิยมหิ้วของฝากประเภทอาหารที่เป็นของเหลวขึ้นเครื่อง ไม่ว่าน้ำพริก แหนมเนือง น้ำปลาร้า น้ำบูดู หรืออาหารที่มีน้ำเป็นส่วนผสมในปริมาณมาก จะได้ไม่ต้องเสียเวลา เสียความรู้สึก เพราะเสียเงินซื้อของไปแล้ว แต่ไม่สามารถนำสิ่งของขึ้นเครื่องไปได้ ทั้งที่ก่อนหน้ามีประกาศอาจสามารถทำได้บ้าง หากจะควักเงินเพิ่มค่าโหลดสัมภาระใต้ท้องเครื่องคงไม่คุ้มแน่นอน สำหรับของเหลว เจล สเปรย์ จะต้องมีปริมาตรไม่เกิน 100 มิลลิลิตร หรือ 100 กรัม หรือ 3.
เป็นคำถามที่มีเข้ามาบ่อยมากๆอีก 1 คำถามเลยนะคะ สำหรับสิ่งของที่ห้ามนำขึ้นเครื่อง อันนั้นเอาขึ้นได้ไหมคะ อันนี้เอาขึ้นได้หรือเปล่า วันนี้ขิงเลยนำหัวข้อนี้มาพูดให้ทุกคนฟังไปพร้อมๆกันค่ะ อันนี้เป็นเวอร์ชั่นอัพเดตปี 2019 แล้วนะคะ เราไปเริ่มกันเลยดีกว่ากับสิ่งของที่ห้ามนำขึ้นเครื่องประเภทแรกคือ 1. เครื่องดื่มหรือเครื่องสำอางค์ ต้องมีขนาดบรรจุภัณฑ์ไม่เกิน 100 มิลลิลิตร และต้องมีข้อความระบุปริมาตรชัดเจน สามารถนำไปได้มากกว่า 1 ชิ้น แต่ต้องมีปริมาตรรวมกันสูงสุดไม่เกินคนละ 1, 000 มิลลิลิตร ส่วนของเหลว เจล สเปรย์ ที่ซื้อจากร้าน duty free สามารถนำขึ้นเครื่องได้ แต่ต้องบรรจุไว้ในถุงพลาสติกที่ปิดเรียบร้อย โดยที่ต้องไม่มีร่องรอยการแกะ การฉีกขาด หรือการเปิดปากถุง และต้องแสดงหลักฐานว่าซื้อในวันที่เดินทาง ในส่วนของเหลว เจล สเปรย์ ประเภทยาต้องมีใบรับรองแพทย์ และอาหารหรือนมสำหรับเด็กทารกที่ต้องใช้บริโภคระหว่างเที่ยวบินต้องมีปริมาณเหมาะสมในการเดินทาง 2. ของมีคม ของมีคมนี้หมายความถึงทุกอย่างเลยนะคะที่มีความคมสามารถใช้ทำร้ายคนอื่นได้ เช่น ไม้บรรทัดเหล็ก คัตเตอร์ กรรไกรตัดเล็บ เข็มเย็บผ้า มีด มีดพับ มีดพก และของมีคมทุกชนิด แต่หากเป็นของใช้ที่จำเป็น อาจอนุญาตให้เก็บไว้ในกระเป๋าใบใหญ่ที่โหลดใต้เครื่องบินได้ แต่ไม่อนุญาตให้พกพาขึ้นเครื่องบิน 3.
อาหารที่มีกลิ่นแรง เวลาไปเที่ยวหลายๆคนก็มักมีของฝากติดไม้ติดมือมาฝากคนที่รักกันใช่ไหมคะ แต่ในปี 2019 นี้อาหารต่างๆที่มีกลิ่นแรงที่อาจส่งกลิ่นรบกวนผู้โดยสารคนอื่นได้นั้นก็ได้ถูกห้ามขึ้นเครื่องเช่นกันนะคะ อาหารที่มีกลิ่นแรงก็เช่น อาหารทะเล เนื้อสัตว์สด/แช่แข็ง ทุเรียน ปลาร้า เป็นต้นค่ะ แต่ถ้าบางสายการบินอนุญาติให้นำขึ้นเครื่องได้ก็ต้องแพ็คมาอย่างเหมาะสม ไม่หกเลอะเทอะและที่สำคัญต้องไม่มีกลิ่นออกมารบกวนผู้โดยสารท่านอื่นนะคะ 7. สัตว์มีพิษ สัตว์ดุร้าย สัตว์มีพิษร้ายแรง หรือสัตว์ดุร้ายไม่สามารถขึ้นเครื่องบินไปกับเราได้นะคะ ในที่นี้รวมถึงสัตว์ขนาดใหญ่ สัตว์สงวน เพราะนอกจากอาจเป็นการรบกวนผู้อื่นแล้ว ยังผิดกฎหมายอีกด้วย ดังนั้นถ้าใครที่เลี้ยงน้องๆมีพิษไว้เวลาไปเที่ยวก็ให้น้องๆอยู่ที่บ้านไปก่อนไม่ต้องพาน้องไปเที่ยวด้วยนะคะ 8. สารอันตรายต่างๆ ข้อนี้ก็ตามชื่อเลยค่ะสารที่มีความอันตรายต่างๆ เช่น สารกำจัดแมลง สารหนู วัตถุออกซิไดซ์ เช่น แอมโมเนียไนเตรท แคลเซียมเปอร์ออกไซด์ วัตถุก๊าซมันตภาพรังสี เช่น ธาตุยูเรเนียม วัตถุกัดกร่อน เช่น แบตเตอรีที่บรรจุสารกัดกร่อน น้ำกรด ปรอท ฯลฯ 9. สิ่งอื่นๆ สิ่งของอื่นๆที่ไม่ได้ถูกจัดให้อยู่ในประเภทต่างๆตามข้างบนที่บอกไปตอนต้น เช่น แม่เหล็ก น้ำแข็งแห้ง ก็ไม่สามารถนำติดตัวขึ้นเครื่องบินได้นะคะ สิ่งของทั้งหมดทัง 9 ประเภทที่ขิงรวบรวมมาให้ทุกคนวันนี้เป็นสิ่งของที่เราต้องให้ความสำคัญในการนำติดตัวขึ้นเครื่องให้เป็นไปตามที่องค์การการบินกำหนดนะคะ เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของตัวเราเองและผู้โดยสารคนอื่นๆ ทุกคนจะได้เดินทางถึงเป้าหมายอย่างปลอดภัยไม่เสียเวลา และได้เที่ยวอย่างมีความสุข
พอดีเดินทางไปคนเดียวก็เลยไม่ได้โหลดของลงใต้เครื่องแต่จะนำของเหลวขึ้นเครื่องด้วย ก็มี แชมพู โคโลญจน์ โฟมล้างหน้า ลูกกลิ้งระงับกลิ่นกาย ปริมาณก็ผ่านเกณฑ์ที่ทอท. กำหนด ปัญหาก็คือถุงที่จะใส่บรรจุภัณฑ์ของเหลวพวกนี้ต้องเตรียมมาเองหรือว่าที่สนามบินมีไว้ให้ครับ แสดงความคิดเห็น
กรมท่าอากาศยาน ประกาศ แหนมเนือง ไม่สามารถหิ้วขึ้นเครื่องบินได้ เนื่องจากน้ำจิ้มมีปริมาตร 400 มิลลิลิตร เกินที่กฎหมายกำหนด ให้โหลดใต้ท้องเครื่องเท่านั้น รวมถึงเครื่องสำอางที่มีปริมาตรเกิน 100 มิลลิลิตร วันที่ 6 มิถุนายน 2562 ข่าวเวิร์คพอยท์ รายงานว่า นางอัมพวัน วรรณโก อธิบดีกรมท่าอากาศยาน (ทย. ) เปิดเผยว่า หลังประชุมซักซ้อมสนามบินภูมิภาคทั้ง 28 สนามบิน ให้ปฏิบัติงานเป็นไปตามกฎประกาศ สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท. ) เรื่อง หลักเกณฑ์การตรวจค้นของเหลว เจล และสเปรย์ ที่จะนำขึ้นบนห้องโดยสารอากาศยาน หรือนำเข้าไปในเขตหวงห้ามของสนามบินสาธารณะ ซึ่งเป็นระเบียบฉบับใหม่ของ กพท.
ศ. 2562 นั้น รวมไปถึงอาหารที่มีของเหลว เช่น ต้ม แกง น้ำพริก น้ำจิ้มต่าง ๆ เครื่องดื่ม ซุป น้ำเชื่อม แยม สตูว์ ซอส น้ำพริก หรืออาหารที่อยู่ในซอส รวมไปถึงเครื่องแต่งหน้าพวก มาสคาร่า ลิปสติก หรือ ลิปบาล์ม ที่มีปริมาตรมากกว่า 100 มิลลิลิตร หรือ ไม่มีปริมาตรระบุ ก็ไม่สามารถหิ้วขึ้นเครื่องบินได้เช่นกัน ทั้งนี้ เดลินิวส์ออนไลน์ เผยว่า นายจุฬา สุขมานพ ผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท. ) เผยว่า ปกติแล้ว แกงต่าง ๆ ที่ปริมาตรเกิน 100 มิลลิลิตร ไม่สามารถถือขึ้นเครื่องได้อยู่แล้ว จึงใช้วิธีโหลดใต้ท้องเครื่องแทน โดยเจ้าหน้าที่จะใช้วิธีตรวจสอบผ่านเครื่องสแกน แล้วเจ้าหน้าที่จะพิจารณาว่า ให้โหลดใต้ท้องเครื่องหรือทิ้ง และที่ผ่านมา ผู้โดยสารก็ถกเถียงกับเจ้าหน้าที่มาตลอด บางอย่างเอาขึ้นได้ บางอย่างเอาขึ้นไม่ได้ จนเจ้าหน้าที่ต้องอนุโลม โดยเฉพาะ แหนมเนือง ที่มีน้ำจิ้มเป็นส่วนประกอบ ทางสนามบินจึงขอให้ กพท. ประกาศให้ชัดเลยว่า ของเหลวคืออะไรบ้าง เพื่อความปลอดภัย เพราะของเหลวเกินกว่า 100 มิลลิลิตร สามารถนำไปประกอบระเบิดได้ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ย. 2550 เคยสงสัยไหม ทำไมของเหลวใน Duty Free จึงนำขึ้นเครื่องได้? สินค้าที่เป็นของเหลว ที่วางขายในร้านดิวตี้ฟรีทุกชนิด จะผ่านการตรวจสอบจากทางท่าอากาศยานอยู่แล้ว และเมื่อนำสินค้าขึ้นเครื่องจะมีถุงใส่ให้อย่างมิดชิด มีตราประทับเพื่อให้รู้ที่มาที่ไปของของเหลวที่จะนำขึ้นเครื่อง เมนูนำทาง เรื่อง